คืนความยุติธรรมให้เสือดำ ?

Black-panther-3-Size-Silk-Fabric-Canvas-Poster-Print

ครั้งหนึ่งคุณสืบ นาคะเสถียร เคยเขียนบทกลอนว่า

 

“เสียงปืนที่ดังลั่น ตัวแม่นั้นต้องสิ้นใจ

ลูกน้อยที่แบกไว้ กระดอนไปเพราะแรงปืน

ฝืนใจเข้ากอดแม่ หวังแก้ให้แม่ฟื้น

แม่จ๋าเพราะเสียงปืน จึงไม่คืนชีวิตมา

โทษไหนจึงประหาร ศาลไหนพิพากษา

ถ้าลูกท่านเป็นสัตว์ป่า ใครเข่นฆ่าท่านยอมไหม

ชีวิตใครใครก็รัก ท่านประจักษ์หรือไม่ไฉน

โปรดเถิดจงเห็นใจ สัตว์ป่าไซร้ก็เหมือนกัน”

 

บทกลอนนี้น่าจะสะท้อนความรู้สึกของคนจำนวนมาก

เมื่อทราบข่าวสะเทือนใจว่า มีกลุ่มบุคคลผู้มีอิทธิพลเข้าป่าทุ่งใหญ่นเรศวร

ล่าเสือดำ และสัตว์อื่น ๆ อีกหลายตัว

 

 

4 ก.พ. 2561 เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก

รับแจ้งว่าพบนักท่องเที่ยวสี่คน ตั้งแคมป์พักในบริเวณจุดห้ามตั้ง

พบซากสัตว์ป่าคุ้มครอง คือ ไก่ฟ้าหลังเทา ซากเนื้อเก้ง ซากเสือดำ

ถูกชำแหละ และหนังเสือดำกองอยู่

จึงได้ทำการขยายพื้นที่ตรวจสอบพบอาวุธปืนลูกกรดติดลำกล้อง

ปืนไรเฟิลติดลำกล้อง  และ ปืนลูกซองแฝดอย่างละกระบอก

พร้อมกระสุนหลายสิบนัด

ต่อมาอัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย กับพวก

ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 219/2561 ใน 6 ข้อหา เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2561 ประกอบด้วย

 

  1. ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
  2. ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
  3. ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
  4. ฐานนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
  5. ฐานรวมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
  6. ความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ฯลฯ_104505265_cf13b7fe-ff8b-4366-a587-37c178ac4bad

แต่บังเอิญหนึ่งในผู้ต้องหากลุ่มนี้ คือ นายเปรมชัย กรรณสูตร เศรษฐีหลายหมื่นล้านบาท

ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)

บริษัทรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่อันดับต้น ๆของประเทศ

ประมูลโครงการของรัฐได้เป็นส่วนใหญ่ มีสัมพันธ์อันดีกับผู้มีอำนาจมาทุกยุคทุกสมัย

อย่างยาวนานตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อ จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า

อิทธิพลและบารมีคับฟ้าเพียงใด

คดีล่าสัตว์นี้ผู้ต้องหาจึงไม่ธรรมดา

ผู้ต้องหาขับรถโตโยต้าแลนครุยเซ่อร์ราคา หกล้านบาท

พกปืนไรเฟิลราคาแพง ที่บรรดาคนทั่วไปยากที่จะมีไว้ครอบครอง

 

จากการสืบทราบ พบว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้เข้ามาในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร

โดยมีอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาของบริษัทอิตัลไทย

เป็นผู้ประสานงานผ่านเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ให้ช่วยอำนวยความสะดวกคณะนี้ ที่แจ้งว่าจะเข้ามาศึกษาธรรมชาติ

 

คนที่อนุญาตก็คงไม่ทราบว่า คนกลุ่มนี้ที่มีชื่อเสียงจะกล้าเข้ามาล่าสัตว์ป่าถึงในป่ามรดกโลกผืนนี้

เจ้าหน้าที่ระดับล่างในพื้นที่ ก็คงไม่ได้ตรวจค้นรถของผู้หลักผู้ใหญ่มีเกียรติในสังคม

DWkRINvU0AAxLqs

เมื่อเกิดการจับกุม ในตอนแรกคงมีความพยายามจะขอต่อรอง

มีการส่งทีมทนายใหญ่เข้ามาเจรจา เจ้าหน้าที่ในป่าถูกกดดันหนัก

แต่นายวิเชียร ชินวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ  ไม่ยินยอม

และส่งให้ตำรวจสถานีทองผาภูมิดำเนินคดีต่อไป

แม้ว่าจะมีหลักฐานมากมาย โดยเฉพาะซากเสือดำ

แต่ผู้ต้องหาก็ให้การปฏิเสธทุกข้อหา แก้ตัวว่า

“มาเที่ยวธรรมชาติ ขออนุญาตอย่างถูกกฎหมาย ไม่ได้มาล่าสัตว์ป่า” 

เพราะคงมั่นใจในการต่อสู้ทางกฎหมายว่าจะชนะคดี

เสือดำ เป็นชนิดเดียวกับเสือดาวอินโดจีน หรือ Indo-chinese leopard

(Panthera pardus delacouri)  เคยกระจายพันธุ์อยู่ทั่วไป

เฉพาะในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันมีสถานภาพใกล้สูญพันธุ์ระดับโลก

เหลือแค่ราว 2 พันตัว พบแค่ในประเทศไทย พม่า มาเลเซีย

ในประเทศไทยแหล่งอาศัยสำคัญคือป่าทุ่งใหญ่นเรศวรและป่าห้วยขาแข้ง

ที่มีอาณาเขตติดกันกว่า สี่ล้านไร่ และคาดว่าประชากรเสือดำจะเหลืออยู่เพียงร้อยกว่าตัว

สถานะของเสือดำจึงน่าเป็นห่วงมาก ใกล้สูญพันธุ์เต็มที่

สร้างความสะเทือนใจให้กับคนส่วนใหญ่ที่ทราบข่าวการฆ่าเสือดำ

 

ยิ่งเสือดำไม่ใช่มนุษย์ ไม่มีสี ไม่มีค่าย ไม่มีผลประโยชน์ ไม่เกี่ยวข้องกับความเชื่อทางการเมืองใด ๆ

เป็นผู้ถูกกระทำฝ่ายเดียว จึงยิ่งได้รับความเห็นใจมากจากทุกฝ่าย

ในขณะที่ผู้ล่าเป็นคนรวยมีอิทธิพล สังคมยิ่งจับตามองว่าคดีจะหลุดไหม

เพราะที่ผ่านมา คนมีอำนาจมักรอด อาทิ

คดีบอสกระทิงแดง ที่ขับรถชนตำรวจตาย ยังหนีรอดไปได้

คดีนี้จึงได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากคนทั่วไปอย่างกว้างขวาง

ในขณะเดียวกัน คนส่วนใหญ่ก็เชื่อว่า คดีนี้น่าจะหลุด

เพราะอิทธิพล บารมีและเงินทองของผู้ต้องหา

ในโลกออนไลน์ จึงมีความพยายามในการสืบค้นหาข้อเท็จจริง

จะเรียกว่า ทีมนักสืบออนไลน์ โดยไม่นัดหมาย เพื่อช่วยกันให้ข้อมูลกันอย่างมากมาย อาทิ

ทีมนักสืบ ตั้งข้อสังเกตว่า คณะนี้ที่อ้างว่ามาเที่ยวธรรมชาติ

เอาเข้าจริงคงมาล่าสัตว์มากกว่า

เพราะมีการพบเกลือจำนวนมากเกินกว่าจะมาปรุงอาหาร

เชื่อได้ว่า เป็นการเตรียมมาหมักหนังและเนื้อสัตว์ที่ล่าได้

มีการเตรียมเครื่องปรุงมา แต่ไม่มีการเตรียมเนื้อสด หมู ไก่ ฯลฯ

ทำให้เชื่อได้ว่าคงตั้งใจหาเนื้อจากการล่าสัตว์ป่า

หนังเสือดำ พบว่าเป็นการถลกหนังของนักล่ามืออาชีพ

หนังเสือถูกลอกออกมาแผ่นเดียว ไม่มีรอยฉีกขาด

ปืนลูกซอง และปืนไรเฟิลที่ใช้มีอานุภาพสูง ราคากระบอกละหลายแสนบาท

เป็นปืนล่าสัตว์มากกว่าป้องกันตัว

 

เสื้อที่นายเปรมชัยสวมใส่ เป็นเสื้อล่าสัตว์เรียกว่า Shooting Jacket

ออกแบบให้ช่วงบ่ามีแผ่นกันลื่นและกระแทก

180305-bp-006

Manager online ก็ได้ลงภาพนายใหญ่แห่งอิตัลไทย เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน

ที่เห็นหนังเสือรองเก้าอี้ในที่ทำงาน

เป็นหลักฐานว่า ผู้ชายคนนี้ชื่นชอบกีฬากลางแจ้งแบบใด

คำพูดที่บอกว่า “มาเที่ยวธรรมชาติ”  จึงน่าสงสัยยิ่ง

 

แต่การพิจารณาคดีว่าจะรอดหรือไม่นั้น

อยู่ที่หลักฐานสำคัญในที่เกิดเหตุว่าจะมีเพียงพอหรือไม่

หลักฐานสำคัญทางวิทยาศาสตร์ อาทิเขม่าดินปืนของผู้ต้องหา

ก็ไม่มีใครทราบว่าเก็บหลักฐานได้มากน้อยเพียงใด

และที่สำคัญคือ การทำให้สำนวนอ่อน หลักฐานสำคัญที่จะไปกล่าวหาว่า

เป็นคนล่าเสือดำ หรือครอบครองซากสัตว์ป่า ไม่ว่าเขม่าดินปืน

ลอยนิ้วมือบนปืน พยานบุคคล ก็่หาไม่ง่าย

เมื่อขึ้นสู่การพิจารณาของศาล หากหลักฐานอ่อนก็อาจจะรอดบางคดี

และทนายฝ่ายจำเลยตั้งธงแต่แรกแล้วว่า

ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยเฉพาะคดีของคุณเปรมชัย

 

เป็นเวลากว่า 1 ปี ที่คดีล่าเสือดำในป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม มีการสืบพยานทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยรวมเกือบ 20 ปาก

และศาลนัดฟังคำพิพากษา  เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2562

w644

ศาลจังหวัดทองผาภูมิ พิพากษาจำคุกนายเปรมชัย กรรณสูต

เป็นเวลา 16 เดือน ใน 3 ข้อหา คือ

1     ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า  จำคุก 8 เดือน

2     ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (ไก่ฟ้าหลังเทา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 2  เดือน

3        พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ จำคุก 6 เดือน

โดยศาลยกฟ้องข้อหาครอบครองซากเสือดำ

 

ส่วนจำเลยที่ 2-4 ได้แก่ นายยงค์ โดดเครือ คนขับรถ

นางนที เรียมแสน แม่บ้าน

และนายธานี ทุมมาศ นายพรานของนายเปรมชัย

ถูกจำคุกรวมกัน

ตั้งแต่ 4 เดือน ถึง 2 ปี 17 เดือน

 

โดยทั้ง 3 คน ต่างถูกลงโทษข้อหาครอบครองซากเสือดำทั้งสิ้น

นายพราน จำเลยที่ 4 ถูกลงโทษจำคุกหนักสุด 2 ปี 17 เดือน

เพราะเป็นคนเดียวที่โดนข้อหาล่าสัตว์ป่า  (เสือดำ)ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า

 

นายเปรมชัย พร้อมพวกอีก 3 คน ต้องร่วมกันชำระค่าเสียหายทางแพ่ง 2 ล้านบาท

แก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

 

และศาลให้ประกันตัวเปรมชัย 400,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่าห้ามเดินทางออกนอกประเทศ

ล่าสุด ทั้งสองฝ่ายยังอยู่ในการพิจารณาว่าจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่

และเชื่อว่าคงมีการสู้กันถึงศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา

ซึ่งกว่าจะสิ้นสุดคดีคงอีกหลายปี

รอดูต่อไปว่า

“ สำหรับอภิมหาเศรษฐีในเมืองไทย มีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นได้เสมอ”

จะเป็นจริงหรือไม่

DXklN2rUQAAKcHI

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s