หมวกเหลืองและวินัยของเด็กนักเรียนญี่ปุ่น

img_2150

 

“พื้นฐานของคนญี่ปุ่นคือวินัยแต่พื้นฐานของคนไทยคือเห็นแก่ตัว

คนญี่ปุ่นผู้เคยทำงานในเมืองไทยหลายปีสรุปให้ฟังสั้น ๆ ต่อทัศนคติที่มีต่อคนไทยก่อนลากลับประเทศ

“คนไทยเห็นแก่ตัวมาก ไม่ยอมหยุดรถให้คนข้ามถนนตรงทางม้าลาย ไม่ยอมเข้าคิว”

“คนไทยจอดรถซื้อของในที่ห้ามจอดบนทางเท้า

หรือจอดซ้อนเพื่อรอรับลูกหน้าโรงเรียนทุกวัน

โดยไม่สนใจว่ารถจะติดแค่ไหน”

“ที่ญี่ปุ่นไม่มีแบบนี้ เรารีบตลอดเวลา

แต่เราไม่เห็นแก่ตัวเหมือนคนไทย”

จริงหรือไม่จริง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกวันในประเทศนี้น่าจะบอกอะไรได้

มาดูว่าวินัยพื้นฐานของคนญี่ปุ่นเขาสร้างกันอย่างไรตั้งแต่เด็ก

บ่ายวันหนึ่งขณะผมเดินไปตามถนนในเมืองฟุกุโอะกะ

สังเกตเห็นขบวนนักเรียนญี่ปุ่นตัวน้อยหลายคนเดินสวนมา

เสียงพูดคุยเจื้อยแจ้ว ไม่มีใครแต่งเครื่องแบบนักเรียน

แต่ที่เหมือนกันคือทุกคนสวมหมวกสีเหลือง

มีผู้อาวุโสคนหนึ่งคุมขบวน

ด้วยความสงสัย ผมหาคำตอบจากคนแถวนั้น และทราบว่า

เด็กโรงเรียนรัฐบาลของญี่ปุ่นไม่มีชุดเครื่องแบบ ใส่ชุดอะไรก็ได้ที่สุภาพ

แต่หากเป็นโรงเรียนเอกชนจะมีเครื่องแบบนักเรียน

เด็กนักเรียนทั่วประเทศญี่ปุ่นจะเดินไปและกลับบ้านด้วยตัวเอง

โดยทุกเช้าและเย็นเด็กตัวน้อย ๆ จะสวมหมวกสีเหลืองมารวมตัวตรงจุดนัดหมาย ก่อนจะเดินเป็นขบวนไปโรงเรียนพร้อมเพรียงกัน

มีอาสาสมัครในชุมชนส่วนใหญ่เป็นคนสูงวัยหรือ silver-san ผลัดกันมาช่วยนำทางและดูแลเด็กเหล่านั้น

ทุกวันเด็กต้องเดินมาถึงจุดนัดหมายตรงเวลาเพื่อไม่ให้เพื่อนต้องรอ

เป็นการฝึกวินัยแต่เด็ก ๆ และฝึกให้เด็กเล็กช่วยเหลือตัวเอง

ไม่มีพ่อแม่ขับรถไปรับส่งที่โรงเรียน

เด็กนักเรียนจะเรียนหนังสือที่โรงเรียนในชุมชนตัวเอง ไม่ไกลบ้าน

การเดินไปโรงเรียนจึงเป็นเรื่องปรกติ

ทุกเช้าพอถึงเวลาทุกคนจะเดินถึงจุดนัดพบ เมื่อมาครบแล้วเด็กโตจะอยู่หัวแถว เด็กเล็กอยู่ตรงกลาง ท้ายแถวเป็นเด็กรุ่นโตรองลงมา เดินไปด้วยกัน

เด็กโตจะถูกสอนให้มีหน้าที่ดูแลเด็กเล็ก สร้างนิสัยช่วยเหลือกัน ปกป้องคนอ่อนแอกว่า หากข้ามถนนตรงสี่แยกจะมีคนโบกธงให้รถเห็นแต่ไกล เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

กฎหมายจะลงโทษรุนแรงมากหากไม่หยุดรถให้คนข้ามถนนตรงทางข้าม

และบางโรงเรียนพ่อแม่เด็กจะผลัดเวรกันโบกธงให้เด็ก ๆ ข้ามถนน

หมวกเหลืองเป็นสัญลักษณ์ให้ชาวบ้านช่วยดูแลความปลอดภัยของเด็กเหล่านี้ โดยเฉพาะเด็กนักเรียนชั้นประถมฯ ปีที1-6 จะต้องสวมหมวกเหลืองอันเป็นสีที่โดดเด่นชัดเจน เพื่อให้คนภายนอกรู้ว่ายังเป็นลูกเจี๊ยบ

บางโรงเรียนจะให้เด็กติดแผ่นป้ายสีเหลือง

และแขวนกระดิ่งด้านหลังกระเป๋านักเรียน เดินไปตามท้องถนน

เตือนให้คนในชุมชนทราบว่า ขบวนลูกเจี๊ยบกำลังมาแล้ว เพื่อช่วยกันระวังความปลอดภัยให้เด็ก

ภาพของเด็กเล็ก ๆ สวมหมวกสีเหลืองส่งเสียงดังยังติดตาผม

ภาพคนวัยเกษียณที่มาเป็นอาสาสมัครดูแลเด็กสะท้อนความสัมพันธ์ของคนในชุมชนอย่างชัดเจน

ทุกคนต้องเสียสละเพื่อให้สังคมโดยรวมดีขึ้น พ่อแม่ต้องเสียสละยอมให้ลูกรักเดินไปโรงเรียน

ถามว่าพ่อแม่เป็นกังวลไหม

 

แต่ด้วยแนวคิดว่า “Send the beloved child on a journey.” หรือ “จงส่งลูกรักสู่การผจญภัยในโลกกว้าง” 

สะท้อนแนวคิดคนญี่ปุ่นที่ต้องการให้เด็ก ๆ รู้จักการรับผิดชอบ

ต่อตนเองผ่านการเดินทางไปโรงเรียน

เริ่มตั้งแต่ชั้น ป. 1กันเลย เด็กถูกฝึกให้ตรงเวลา

ถูกฝึกให้เดินวันละไม่ต่ำกว่า2-3กิโลเมตร

เพื่อสร้างวินัย ช่วยเหลือตัวเอง ฝึกให้ช่วยเหลือคนอื่น

คนในชุมชนต้องเสียสละเวลามาคอยดูแลความปลอดภัยของเด็ก

ไม่แปลกใจที่พื้นฐานของคนญี่ปุ่นคือวินัย และการเสียสละเพื่อส่วนรวมที่ทุกคนมีส่วนร่วม

เมื่อเขาตั้งใจจะฝึกวินัยให้เด็กด้วยการเดินไปโรงเรียนเอง

การสร้างความปลอดภัยให้เด็กว่าจะไม่ถูกทำร้าย

ลักพาตัว หรือเกิดอุบัติเหตุ

การสร้างความมั่นใจแก่พ่อแม่จึงเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐและคนในชุมชนต้องร่วมมือร่วมใจทำให้

รวมถึงการออกแบบถนน เส้นทางในเมือง

ออกแบบครบทุกอย่างเพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้แก่นักเรียนมากที่สุด

สอบถามว่าเคยมีอุบัติเหตุหรือมีเด็กหายบ้างหรือไม่

จากสถิติที่ผ่านมาคือมีบ้าง แต่ต้องหาทางป้องกันต่อไป

ที่ผ่านมาญี่ปุ่นเจริญก้าวหน้ามาได้เพราะสร้างชาติจากวินัยและการเสียสละ

แต่มิอาจสร้างได้จากความเห็นแก่ตัวของคนในชาติ

หมายเหตุ. ผู้เขียนเชื่อว่า ผู้อ่านหลายท่านคงมีข้อวิจารณ์ว่า เราทำแบบญี่ปุ่นไม่ได้หรอก เพราะการจราจร ความปลอดภัยบนท้องถนนบ้านเราแย่กว่ามาก

ผู้เขียนอยากบอกว่า. แล้วเราเรียนรู้อะไรจากสิ่งดีๆเหล่านี้บ้าง เพื่อมาปรับใช้ครับ

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s