หากพระเจ้ามีจริง
12 กุมภาพันธ์ 1809 พระเจ้าได้ส่งเด็กชายสองคนมาบนโลกคือ ชาร์ลส์ ดาร์วิน และ อับราฮัม ลินคอล์น
ทั้งสองคนเป็นบุคคลสำคัญของโลก และปีนี้ครบรอบ 211 ปีวันเกิดของท่าน
คนแรกเป็นชาวอังกฤษ ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกคนหนึ่ง
คนที่สองเป็นชาวอเมริกัน ได้รับการยกย่องว่าเป็นประธานาธิบดีผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง
ชาร์ลส์ ดาร์วิน เป็นลูกหมอ เป็นคนมีอันจะกิน แต่เรียนหนังสือไม่เก่ง เคยสมัครเข้าเรียนคณะแพทย์ แต่ก็ล้มเหลว สุดท้ายไปเรียนด้านศาสนา แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร กลับชอบธรรมชาติมากกว่า ชอบท่องเที่ยวไปตามที่ต่าง ๆ สะสมตัวด้วง แมลงปีกแข็ง จนในที่สุดในวัยหนุ่มเมื่อสำเร็จการศึกษา แทนที่จะเป็นบาทหลวง กลับได้มีโอกาสไปผจญภัยกับเรือหลวงอังกฤษชื่อบีเกิ้ล ตระเวนไปตามมหาสมุทรแอตแลนติก แปซิฟิก ไปสำรวจดินแดนอันไกลโพ้นตั้งแต่ออสเตรเลีย แอฟริกา อเมริกาใต้ และที่โด่งดังที่สุดคือเกาะกาลาปากอส
การเปิดโลกกว้างของเขาที่น้อยคนในเวลานั้นจะสามารถทำได้ ทำให้เขาเห็นสัตว์และต้นไม้แปลก ๆ นานาชนิด เห็นการเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ แต่ละสถานที่ก็ไม่เหมือนกัน เขาบันทึกทุกอย่างที่ได้สังเกตเห็น เก็บตัวอย่างพันธุ์พืชพันธุ์สัตว์มาวิเคราะห์ และเมื่อกลับมาเกาะอังกฤษ เขาใช้เวลาเดินทางเก็บตัวอย่างเพิ่มเติม สนทนาแลกเปลี่ยนกับนักชีววิทยา และศึกษาค้นคว้างานวิจัยด้านธรรมชาติวิทยา และใช้เวลาอีกหลายสิบปีกว่าจะเขียนหนังสือออกมาเล่มหนึ่ง ซึ่งสั่นสะเทือนความเชื่อของชาวคริสต์ไปทั้งแผ่นดิน หนังสือเล่มนั้นชื่อ The Origin of Species ซึ่งเขียนเสร็จในวัย 50 ปีพอดี
ในเวลานั้น ชาวคริสต์ส่วนใหญ่เชื่อว่า พระเจ้าสร้างโลกมาเมื่อประมาณหกพันปีกว่า และสร้างสิ่งมีชีวิตต่าง ๆทั้งหมดขึ้นภายในหกวัน แต่หนังสือเล่มนี้บอกว่า สิ่งมีชีวิตมีอายุยืนยาวกว่านั้นและมีการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ เกิดขึ้นเพื่อความอยู่รอดจากสภาพบีบคั้นจากธรรมชาติรอบตัว การแย่งชิงอาหาร และเพื่อการดำรงเผ่าพันธุ์
The Origin of Species เป็นหนังสือขายดี แต่ชาวคริสต์เอาหนังสือเล่มนี้มาเผา เพราะพระเจ้าไม่ได้สร้างสิ่งมีชีวิต แต่เป็นเรื่องของวิวัฒนาการ และยิ่งโกรธมากขึ้นเมื่อดาร์วินบอกว่า มนุษย์และลิงมีบรรพบุรุษร่วมกัน ก่อนจะมีวิวัฒนาการแยกสายพันธุ์ออกมา โชคยังดีที่ดาร์วินไม่ถูกพวกเคร่งศาสนารุมประชาทัณฑ์หรือเอาไปเผาทั้งเป็นเหมือนสมัยกลาง
ดาร์วินตายไปร้อยกว่าปี จนเมื่อสิบกว่าปีก่อนทาง The Church of England ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการขอโทษที่เข้าใจดาร์วินผิดมาโดยตลอด
ส่วนอับราฮัม ลินคอล์น เป็นลูกชาวนาผู้ยากจน แต่สามารถไต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่งทางการเมืองสูงสุด คือประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา จากนโยบายต่อต้านการค้าทาส จากหลักการในเรื่องสิทธิ เสรีภาพของมนุษย์ที่เกิดมาเท่าเทียมกันของเขา แม้ว่านโยบายนี้จะถูกต่อต้านจากคนทางใต้ที่ยังใช้แรงงานทาสในไร่นาเป็นจำนวนมาก จนลุกลามมาเป็นสงครามกลางเมืองระหว่างฝ่ายเหนือกับฝ่ายใต้ ที่มีผู้ล้มตายร่วมห้าแสนคน
ลินคอล์นเป็นคนพูดเก่ง เขาสามารถใช้วาทศิลป์โน้มน้าวจิตใจผู้คนให้หันมาสนับสนุนนโยบายของเขาได้ ครั้งหนึ่งในสมรภูมิรบครั้งสำคัญของทหารฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้ที่เมือง Gettysburg เขาได้กล่าวสุนทรพจน์อมตะปลุกใจคนอเมริกันทั้งประเทศให้รวมชาติเป็นอันหนึ่งเดียวว่า
“ภายใต้พระเจ้า จะมีการเกิดใหม่แห่งเสรีภาพ- รัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน จะไม่ถูกทำลายไปจากโลกนี้ “
หลังจากนั้นไม่นาน ลินคอล์นเป็นประธานาธิบดีคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกลอบสังหาร ต่อมาเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เสียสละเพื่อความสามัคคีของคนในชาติ เป็นประธานาธิบดีที่อเมริกันชนรักมากที่สุด แม้แต่ ประธานาธิบดี บารัก โอบามา ยอมรับว่าได้รับอิทธิพลและแรงบันดาลใจสำคัญจากอดีตประธานาธิบดี อับราฮัม ลินคอล์นผู้กล่าวว่า
“ข้าพเจ้าเป็นคนเดินช้า แต่ไม่เคยเดินถอยหลัง”
ขณะที่ในปัจจุบัน ความก้าวหน้าทางชีววิทยาในปัจจุบันล้วนต่อยอดความรู้มาจากทฤษฎีวิวัฒนาการ ของชาร์ลส์ ดาร์วิน ผู้ไม่เคยเรียนทางด้านนี้มาเลย ก่อนตายเขาเคยพูดว่า
“เมื่อข้าพเจ้าต้องหยุดการสังเกต ข้าพเจ้าก็ตาย”
ศึกษาชีวิตของคนรุ่นก่อน แล้วกลับมาดูว่า เราได้สร้างอะไรให้กับโลกใบนี้มั่ง