กินชาบูสะเทือนถึงหมอกควันพิษ

วันชัย  ตันติวิทยาพิทักษ์  

ขณะที่กำลังเขียนต้นฉบับนี้ จังหวัดเชียงใหม่ และหลายพื้นที่ในภาคเหนือ กำลังผจญกับปัญหาหมอกควันพิษอย่างรุนแรง

และกำลังไต่อันดับขึ้นสู่อันดับต้น ๆ ของเมืองที่มีปัญหาหมอกควันพิษมากที่สุดในโลก

ปัญหาหมอกควันพิษในประเทศไทยเกิดมานานแล้ว แต่เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอย่างรุนแรงประมาณสิบปีที่ผ่านมา

แต่ละภูมิภาคก็มีสาเหตุของการเกิดหมอกควันพิษแตกต่างกันไป

ในกรุงเทพมหานคร ปัญหาส่วนใหญ่มาจากควันดำท่อไอเสียรถยนต์ เพราะมาตรฐานต่ำ

ทุกวันนี้ประเทศไทยใช้มาตรฐานไอเสียรถยนต์เป็นระดับ Euro 4 ขณะที่รถเมล์ รถบัสนำเที่ยว รถบรรทุก หลายแสนคันที่วิ่งปล่อยควันดำกันเต็มเมืองเหล่านี้ ยังเป็นแค่ Euro 3

ในช่วงหน้าหนาว ประเทศไทยจะเจอกับความกดอากาศสูงเข้ามาปกคลุม

ความกดอากาศนี้จะกั้นไม่ให้หมอกควันพิษไม่ให้ลอยตัวสูงขึ้นมา จึงถูกกักอยู่ในพื้นที่ ยิ่งในกรุงเทพมีตึกล้อมรอบบังทางลม จึงทำให้หมอกควันพิษไม่ถ่ายเท

ในขณะที่ เพื่อนบ้านอย่าง สิงคโปร์ใช้มาตรฐานไอเสียระดับ Euro 6,

ปั๊มน้ำมันหลายแห่งในมาเลเซียเริ่มมีการจำหน่ายน้ำมันดีเซล Euro 5,

เวียดนามที่มีการกำหนดให้ภายในปี 2565 เตรียมประกาศใช้มาตรฐานไอเสียระดับ Euro 5

ประเทศไทย เคยมีประกาศบังคับให้รถที่ผลิตในประเทศ มีมาตรฐาน Euro  5 ภายในปี 2564 แต่เจอกำลังภายในของกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์รายใหญ่รวมตัว เข้าไปเจรจาต่อรองกับผู้นำรัฐบาล

จนสามารถเลื่อนออกไปถึงปี 2567 ได้สำเร็จ

ส่วนประเทศอย่าง ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และยุโรป ต่างก็ใช้มาตรฐานไอเสียระดับ Euro 6 มานานหลายปีแล้ว

แต่ในจังหวัดทางภาคเหนือ ปัญหาหมอกควันพิษส่วนใหญ่มาจากการเผาซากพืชไร่ในพื้นที่ทางการเกษตร

ผู้เขียนใช้ชีวิตอยู่ทางภาคเหนือมานาน การเผาซากพืชไร่ของชาวบ้านหลังการเก็บเกี่ยวพืชผล  เป็นเรื่องปกติที่ทำให้เกิดหมอกควันพิษบ้าง แต่ไม่มากเท่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ที่ปัญหาส่วนใหญ่มาจาก การที่พื้นที่ปลูกข้าวโพดได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และรวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน ลาว พม่า จีน ที่ปลูกข้าวโพดกันมหาศาล

หลายพื้นที่ที่เคยเป็นป่า ก็ถูกบุกรุกเพื่อเปลี่ยนเป็นพื้นที่ปลูกข้าวโพด

เมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว การเผาซากไร่คือวิธีง่ายสุดในการถางไร่ เพื่อรอการปลูกรอบต่อไป  และช่วงนี้คือฤดูกาลเผาซากไร่ ทั้งในและนอกประเทศ จนเกิดหมอกควันพิษลอยกระจายเต็มพื้นที่ทางภาคเหนือ

ทำไมความต้องการข้าวโพดจึงเกิดขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

คำตอบคือ ความต้องการบริโภคเนื้อของคนทั่วโลกเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในประเทศจีน

สมัยก่อน เศรษฐกิจของประเทศจีนยังไม่ดี คนยากจนเยอะ คนจีนบริโภคเนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ กันโดยเฉลี่ยปีละไม่กี่ครั้ง  เนื้อเป็นอาหารของคนมีอันจะกิน เรียกกันว่า เนื้อเงินล้าน

แต่เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น ปัจจุบันคนจีนบริโภคเนื้อกันเป็นประจำแทบทุกวัน

คนอเมริกันเคยครองแชมป์ประเทศที่กินเนื้อมากที่สุดในโลก คือคนละ 120 กิโลกรัมต่อปี

แต่ปัจจุบัน คนจีนกลายเป็นผู้บริโภคเนื้อสัตว์อันดับหนึ่งของโลก (หากนับรวมทั้งประเทศ)

เมื่อสามสิบปีก่อนประชากรจีนมีประมาณ 1,000 ล้านคน กินเนื้อสัตว์เฉลี่ยคนละ 13.5 กิโลกรัมต่อปี

ตอนนี้ประชากรเพิ่มเป็น 1,400 ล้านคน เฉลี่ยกินเนื้อสัตว์คนละ 63 กิโลกรัมต่อปี

คิดเป็นปริมาณเนื้อรวมกันร่วม 100 ล้านตันต่อปี หรือเกือบ 30 เปอร์เซ็นต์ของเนื้อสัตว์ที่ประชากรทั้งโลกกิน

ปัจจุบันการบริโภคเนื้อของคนทั่วโลกเป็นขาขึ้น ในรอบห้าสิบปีที่ผ่านมา

ทั่วโลกกินเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้นจาก 70 ล้านตันเป็น 300ล้านตันต่อปี

จากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นจาก 3 พันล้าน เป็น 7 พันล้านคน

และเมื่อรายได้ดีขึ้น การบริโภคเนื้อก็ตามมา ดังตัวอย่างประเทศจีน

เมื่อความต้องการบริโภคเนื้อของคนจีนมีมากขึ้น ก็กระทบกับภูมิภาคทั่วโลก

ความต้องการข้าวโพด ถั่วเหลือง เพื่อทำอาหารสัตว์จึงเพิ่มขึ้นมหาศาล ในรอบหลายปีที่ผ่านมาจึงมีการขยายพื้นที่ บุกรุกป่า เผาป่า เพื่อเพาะปลูกข้าวโพดแถบประเทศเพื่อนบ้าน

โดยเฉพาะที่รัฐฉานของประเทศพม่า มีการบุกรุกเผาป่ามหาศาลเพื่อเปลี่ยนเป็นแหล่งปลูกข้าวโพด และมีบริษัทเกษตรกรรมรายใหญ่รับซื้อเพื่อแปรรูปข้าวโพดเป็นอาหารสัตว์

ไม่นานมานี้ ดัชนีคุณภาพอากาศที่รัฐฉานขึ้นไปถึง 700 – 2000 สูงสุดเป็นประวัติการณ์

คนไทยก็กินเนื้อมากขึ้นกว่าสมัยก่อนเยอะ สังเกตดูพฤติกรรมการกินอาหารของคนสมัยนี้ก็คงทราบดี

ไส้กรอก เนื้อ น้ำตก หมูกระทะ แฮมเบอร์เกอร์ ไก่ย่าง ชาบู อาหารปิ้งย่างนานาชนิด ฯลฯ ล้วนเป็นอาหารหลักของคนเกือบทุกมื้อ

ยิ่งคนกินเนื้อมากเท่าไร การทำลายป่าเพื่อเปลี่ยนเป็นไร่ข้าวโพดและถั่วเหลืองก็ลุกลามไปเรื่อย ๆ

 เนื้อวัว 1 กก. ใช้อาหารสัตว์คือ ข้าวโพด 11 กก

เนื้อหมู 1 กก. ใช้ ข้าวโพด 7 กก.

เนื้อไก่ 1 กก. ใช้ ข้าวโพด 4 กก.

พื้นที่ปลูกข้าวโพดในประเทศก็เพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดประมาณ 7ล้านไร่ จากนโยบายของรัฐบาลหลายสมัยที่ต้องการเพิ่มพื้นที่ปลูกข้าวโพดนับล้านไร่

จากปัญหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศขาดแคลน จนบางปีต้องนำเข้าข้าวโพดจากต่างประเทศเพื่อมาผลิตอาหารสัตว์

การเผาซากไร่ข้าวโพดทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน ก็คือปัจจัยสำคัญของปัญหาหมอกควันพิษในทางภาคเหนือ

อันล้วนมาจากความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้นทุกปีของมนุษย์

สมัยก่อนมีคำพูดว่า “เด็ดดอกไม้ดวงเดียวกระทบถึงดวงดาว”  เพื่ออธิบายปรากฎการณ์ต่าง ๆที่เกิดขึ้นว่ามีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน

ตอนนี้อาจจะมีคำพูดว่า “กินชาบูหม้อหนึ่ง กระทบถึงปัญหาหมอกควันพิษ”

ปฏิเสธไม่ได้ว่า เราทุกคนล้วนมีส่วนในการทำให้เกิดปัญหาหมอกควันพิษ

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s