ช่วงนี้หากโดยสารขึ้นเครื่องบิน ลองมองออกไปสังเกตน่านฟ้าเหนือกรุงเทพมหานครดู
จะเห็นภาพลักษณะนี้ปรากฎอยู่ภายนอกเครื่อง
ระดับความสูงมากกว่า 4,000 ฟุต
จะสังเกตเส้นแบ่งชัดเจนระหว่างท้องฟ้าใสกับหมอกควันพิษสีเทา
ที่ปกคลุมกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเบื้องล่าง
หมอกควันพิษเหล่านี้คือ ละอองลอย (aerosol) คือ ของผสมประเภทที่ประกอบด้วยอนุภาคของแข็ง
หรือของเหลวที่เป็นละอองฟุ้งกระจายในอากาศ หรือที่เราเรียกกันว่า ฝุ่น หรือ ฝุ่นละออง
ปัญหาหมอกควันพิษ เป็นปัญหาใหญ่ของมหานครระดับโลก
และองค์การอนามัยโลกได้ประกาศว่ามีผู้เสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศปีละประมาณ 7 ล้านคน
จากโรคหัวใจ มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะอาหาร โรคเส้นเลือดในสมอง และโรคทางเดินหายใจ
ทุกวันนี้รัฐบาลไทยดูเหมือนจะชื่นชมการพัฒนาแบบจีนเป็นพิเศษ
จึงอยากเล่าให้ฟังว่า เขาพยายามแก้ไขปัญหาหมอกควันพิษอย่างไร
ประเทศจีนเป็นตัวอย่างสุดเลวร้ายในปัญหาหมอกควันพิษ
เพราะปัญหาเรื่องการก่อสร้าง โรงไฟฟ้าถ่านหิน และปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
จนทำให้ปักกิ่งและมหานครใหญ่ของจีนปกคลุมไปด้วยหมอกควันพิษตลอด
หมอกควันพิษมาพร้อมกับความมุ่งหวังของรัฐบาลจีน
ที่ทำให้อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจก้าวกระโดดมาหลายสิบปี
การสร้างอาคารสูงมากมาย การก่อสร้าง ควันจากท่อไอเสียรถหลายสิบล้านคัน
สะสมกันมานานเข้าจนกลายเป็นเมืองแห่งหมอกควันพิษโดยสิ้นเชิง
ปัญหามลพิษทางอากาศ เป็นเรื่องผลกระทบระยะยาว ใช้เวลาสะสมมลพิษนาน
ก่อนจะส่งผลอย่างจริงจัง และเมื่อความเสียหายเกิดแล้ว
ต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะแก้ไขได้
ประชาชนเดินถนนที่ได้รับผลกระทบเต็ม ๆ จึงต้องแสดงออกให้คนรับผิดชอบได้รับทราบ
อาทิ นักศึกษามหาวิทยาลัยปักกิ่ง แอบเอาหน้ากากป้องกันพิษไปปิดปากอนุสาวรีย์ท่านผู้นำต่าง ๆ
เป็นการประจานความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลไปทั่วโลก
หรือ นายหลี่ กุ้ยซิน ชาวมณฑลเหอเป่ย ได้ยื่นฟ้องต่อศาล
เรียกร้องค่าเสียหายให้กับชาวเมืองที่ได้รับความเสียหายจากมลพิษทางอากาศ
จนทำให้รัฐบาลปักกิ่งเริ่มตื่นตัว และลงมือแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง อาทิ
เมื่อปริมาณหมอกควันพิษเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง จะออกมาตรการชัดเจน
อาทิปิดโรงเรียนบางแห่ง ห้ามคนออกจากบ้านบางช่วง
ยุติการก่อสร้างทั้งหมดโดยสิ้นเชิง จำกัดการใช้รถยนต์
และที่สำคัญคือห้ามหน่วยราชการใช้รถยนต์
เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับประชาชน
ส่วนมาตรการระยะยาว รัฐบาลจีน ได้อนุมัติเงินนับแสนล้านบาท เพื่อทำให้หมอกควันพิษจางลง
อาทิ สนับสนุนการใช้รถไฟฟ้า ด้วยการลดภาษีกับคนซื้อรถยนต์รุ่นใหม่ประหยัดพลังงาน
กำจัดรถเก่าปล่อยควันดำหลายล้านคัน ยกเลิกการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน
ปิดโรงงานที่ปล่อยควันพิษอย่างเด็ดขาด ควบคุมการก่อสร้างอาคารอย่างเคร่งครัด
ล่าสุดจีนได้สร้างเครื่องฟอกอากาศใหญ่ที่สุดในโลก เป็นหอคอยสูง 100 เมตรที่เมืองฉานซี
เพื่อดูดกรองฝุ่นและฟอกอากาศดีวันละ 10ล้านลูกบาศ์กเมตรปล่อยออกมา
ปรากฎว่าได้ผลดี กำลังมีการสร้างเพิ่มเติมอีกหลายแห่ง
ดูเหมือนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยกับจีน มีบางอย่างคล้ายกัน
คือเร่งการเจริญเติบโต
ไม่ว่าการก่อสร้าง ปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น
โดยไม่สนใจปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ค่อย ๆ สะสมตัวขึ้นเรื่อย ๆ
จนเมื่อปัญหาเกิดขึ้นแล้วยากที่จะแก้ไขได้
ตอนนี้รัฐบาลจีนกำลังตื่นตัวเรื่องสิ่งแวดล้อม
ทุกวันนี้ นครปักกิ่งมีคุณภาพอากาศอยู่ในขั้นดี
แต่รัฐบาลไทยยังงัวเงีย
ที่ผ่านมารัฐบาลไทยทุกยุคทุกสมัยไม่เคยยอมรับว่า
มลพิษทางอากาศเป็นวิกฤติใหญ่ที่ต้องรีบแก้ไข หากใช้วิธีแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปเรื่อย ๆ
อาทิ ขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ฉีดน้ำ รอให้ฝนตก หรือพอมีข่าวใหญ่
ก็ไปตั้งด่านวัดระดับควันดำของท่อไอเสีย หรือส่งคนไปตรวจตามสถานที่ก่อสร้างหรือโรงงาน
พอไม่มีคนโวยวาย ข่าวหมดไป ก็เงียบ
สนใจแต่ตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจต่อไป
รัฐบาลไทยไม่เคยสนใจปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างถ่องแท้ ใช้วิธีลูบหน้าปะจมูกมาโดยตลอด
ไม่เคยมีมาตรการชัดเจนให้ชาวบ้านรู้สึกว่ารัฐบาลเอาจริงจัง
อย่าโทษใครเลย นอกจากตัวเอง
ที่ไม่รู้จักออกมาปกป้องสิทธิการหายใจของตัวเอง