ประเทศเก๊ๆ ไม่ใช่ประเทศของเรา

images

หลายปีมานี้เราอยู่ในประเทศที่ดูแปลกประหลาด

เวลามีคนมาปล้นบ้าน ยึดคนในบ้านไม่ให้ขัดขืน เราเรียกว่าโจร

แต่เวลามีคนปล้นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และล้มล้างรัฐธรรมนูญ

เราไม่เรียกว่าโจร

แต่เรียกว่าหัวหน้าคณะ…

เหตุผลในการปล้น เพราะอ้างว่ารัฐบาลชุดเก่า มีนักการเมืองเลว ทุจริตต้องเข้ามาแก้ไข

จากนี้ไปจะปราบคอร์รัปชั่น  ปฏิรูปก่อนเลือกตั้งและเดินหน้าประเทศ

ห้าปีผ่านไป ปฏิรูปประเทศไม่เห็นมีอะไรชัดเจน

น่าจะเป็นปฏิรูปเก๊ ๆ

ประกาศว่า ทุกคนต้องทำตามกฎหมาย  แต่เป็นกฎหมายที่พวกตัวเองเป็นคนออกกติกาทั้งสิ้น

ตั้งคนของตัวเอง ไปคุมองค์กรอิสระต่าง ๆ ที่มีอำนาจในการตรวจสอบ

เริ่มต้นด้วยการออกกฎหมายนิรโทษกรรมตัวเองให้พ้นผิดจากการล้มล้างรัฐบาลเดิม

ผู้นำมีอำนาจพิสดารล้นฟ้า สั่งข้าราชการได้ทั่วประเทศ ใช้เงินภาษีประชาชน

แต่ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ  กลับมาลงเลือกตั้งได้

ตลอดเวลาที่ผ่านมาท่านผู้นำปกครองประเทศราวกับประชาชนเป็นพลทหาร

ชี้นิ้วสั่งได้ และหงุดหงิดอารมณ์เสียได้ตลอดเวลา

ประเทศนี้ตั้งงบประมาณซื้ออาวุธสงครามสูงขึ้นทุกปี ช็อปปิง ซื้อได้ทั้งเรือดำน้ำ รถถัง

เรือรบและเครื่องบินได้เรื่อย ๆ

จนไม่รู้ว่าจะเอาไปทำสงครามกับประเทศใด ขณะที่ปัญหาสาธารณสุขยังขาดแคลน

ปัญหาเศรษฐกิจก็ย่ำแย่

ขณะเดียวกันมีการตั้งกรรมการประกอบด้วยผู้สูงวัยเป็นหลัก เพื่อร่างแผนยุทธศาสตร์ประเทศ 20 ปี

เป็นแผนแม่บทกำหนดอนาคตประเทศและบังคับให้คนรุ่นต่อไปต้องใช้

ทั้ง ๆ ที่คนร่างกับคนใช้แผน น่าจะอยู่กันคนละโลก

สุดท้ายก็คงเป็นได้แค่ ยุทธศาสตร์เก๊ ๆ

พอมีกระแสข่าวว่า รัฐมนตรีชื่อดัง ถูกจับได้ว่า

มีนาฬิกาหรูหลายสิบเรือนไว้ครอบครองโดยไม่แจ้งทรัพย์สินให้ตรวจสอบก่อนเข้ารับตำแหน่ง

ก็อ้างว่ายืมนาฬิกาเพื่อนมาใส่ ไม่ได้ทำผิดระเบียบอะไร

ผู้คนเกือบทุกวงการที่มีวุฒิภาวะต่างลงความเห็นว่าน่าจะไม่ถูกต้อง

สักพักคนที่มีหน้าที่ตรวจสอบทุจริตก็ออกมาช่วยฟอกขาวยืนยันว่า การยืมของเพื่อนไม่ผิดกติกาอะไร

ขณะที่ก่อนหน้านี้ หากเป็นข้าราชการหรือนักการเมืองคนอื่นโดนกันถ้วนหน้าอย่างเคร่งครัด

สงสัยว่าน่าจะเป็นนาฬิกาเก๊

เวลาผ่านไปหลายปีปัญหาการคอรัปชั่นไม่ได้ลดลงอย่างมีนัยะสำคัญ

แต่อำนาจคนเหล่านี้กลับล้นฟ้าขึ้นเรื่อย ๆ

มีหน่วยงานลับคอยส่องดูพฤติกรรมของคนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์หรือเคลื่อนไหวต่อต้าน

เช่นเดียวกับการส่งบุคคลในเครื่องแบบไปคุกคามคนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลให้หวาดกลัว

พอมีการเลือกตั้งก็ใช้อำนาจแต่งตั้งวุฒิสมาชิกเป็นพวกตัวเอง250 คน เพื่อความมั่นคงของเสียงในรัฐสภา

อ้างว่ามาจากรัฐธรรมนูญที่ผ่านการทำประชามติแล้ว

แต่พูดไม่หมดว่า ตอนทำประชามติไม่ได้บอกว่าใครเป็นคนแต่งตั้งวุฒิสมาชิก

ก่อนเลือกตั้งตั้งพรรคตัวเองขึ้นมาบอกว่าเป็นพรรคคนรุ่นใหม่

มีอุดมการณ์ชัดเจนไม่มีนักการเมืองน้ำเน่า โปร่งใส

แต่ปรากฎว่าเต็มไปด้วยนักการเมืองที่ตัวเองเคยกล่าวหาว่าน้ำเน่า

ไม่เป็นไร มาอยู่พรรคนี้แล้ว กลายเป็นนักการเมืองน้ำดี หรือเป็นนักการเมืองเก๊ ๆ

พรรคนี้เริ่มต้นด้วยการจัดเลี้ยงโต๊ะจีนหาเงินเข้าพรรค เสี่ยงทำผิดกติกาการเลือกตั้ง

พอมีคนไปร้องเรียน  คนที่มีหน้าที่ตรวจสอบก็ค่อยๆตรวจไปเรื่อยไม่รู้จบ

คงเป็นโต๊ะจีนเก๊ ๆ จึงตรวจสอบนานมาก

แต่หากเป็นพรรคฝ่ายตรงข้าม

ใครมายื่นเรื่องให้ตรวจสอบก็ตั้งกรรมการจัดการทันทีไม่รอช้า

ผลเลือกตั้งออกมาพรรคการเมืองหน้าใหม่ได้เสียงจากคนรุ่นใหม่แบบสะเทือนแผ่นดิน

ก็หาว่าเด็กสมัยนี้ถูกหลอกง่าย

ตามมาด้วยการรุมถล่มพรรคการเมืองนี้อย่างรุนแรง ขนาดที่เรียกว่า หายใจยังผิด

จนสามารถสกัดไม่ให้หัวหน้าพรรคเข้าสภาได้สำเร็จ

เมื่อคนหน้าเดิมตั้งรัฐบาลสำเร็จ

ก็เริ่มต้นด้วยการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนส่อว่าอาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ

การจัดตั้งรัฐบาลอาจจะมีปัญหา

แทนที่จะรีบขอโทษแก้ไขทันทีก็ไม่สนใจ ปล่อยให้ลุกลามกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต

และอาจจะเป็นบรรทัดฐานที่หมิ่นเหม่ต่อการถวายสัตย์ปฏิญาณครั้งต่อไปในอนาคต

หรือว่าอาจจะเป็นรัฐบาลเก๊ ๆ

พอเศรษฐกิจตกต่ำข้าวของแพงร้านค้าปิดกิจการมากมาย ผู้คนในประเทศโอดครวญ

แทนที่จะหันมามองฝีมือบริหารประเทศว่าเป็นอย่างไร

ก็โทษว่าเป็นเพราะเศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำ.

หรือโทษว่าเป็นเพราะฝีมือรัฐบาลชุดก่อน.

ก็คือผลงานของพวกตัวเองทั้งนั้นที่เข้ามาบริหารประเทศห้าปีกว่าแล้ว

เมื่อคนวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลมากขึ้น

ก็เก็บอารมณ์ไม่อยู่ พูดจาข่มขู่ดูถูกประชาชนไปทั่ว

แทนที่จะอดทนรับฟังคำวิจารณ์ต่าง ๆ

แถมยังกล่าวหาว่าคนเหล่านี้มีเบื้องหลังรับงานมาจากคนแดนไกล

ล่าสุดพอรมต.คนหนึ่งที่ในอดีตเคยมีพฤติกรรมเป็นผู้มีอิทธิพล ถูกหนังสือพิมพ์เมืองนอกออกมาแฉว่า

เคยติดคุกคดียาเสพติดที่เมืองนอกหลายปี เป็นที่อับอายผู้คนไปทั่วโลก

เพราะคดียาเสพติดเป็นคดีร้ายแรง คนทั้งโลกรังเกียจมานาน

แทนที่จะรักษาภาพพจน์ของประเทศ  ผู้นำประเทศกลับออกมารับรองว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องลาออก

“เพราะมันคือแป้ง”

พอมีสื่อไปขุดคุ้ยต่อว่า รมต.คนเดียวกันนี้ใช้ปริญญาเอกเก๊

ซื้อมาจากมหาวิทยาลัยห้องแถวในเมืองนอก

บรรดาเนติกรก็แถว่าคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีพิจารณาแค่ปริญญาตรีเท่านั้น ไม่ได้พิจารณาปริญญาเอก

นับเป็นการแสดงเหตุผลออกมาโดยไม่สนใจในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ที่รัฐบาลชุดนี้อ้างนักอ้างหนา

ไม่ต้องลาออก  ไม่ต้องลาออก

เพราะเป็นรัฐมนตรีเก๊ ๆ

เมื่อชาวบ้านอีสานประสบปัญหาน้ำท่วมรุนแรง แทนที่จะมีภาวะผู้นำจัดการปัญหาในภาวะวิกฤติทันที

กลับปล่อยให้ระบบราชการที่ไม่คล่องตัวในการช่วยเหลือประชาชนทำงานไปเรื่อย ๆ

ต้องเบิกจ่ายเงินตามขั้นตอนระเบียบราชการ

พอคนวิจารณ์หนัก ก็หงุดหงิดอารมณ์เสียตลอด ด่ากราดทุกคนที่เห็นต่าง

พอเกิดวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 รัฐบาลออกพรก.ฉุกเฉิน สั่งให้ประชาชนทำอะไรมากมาย

และห้ามประชาชทำอะไรอีกมาก รัฐบาลมีอำนาจล้นฟ้า จนแทบไม่ต่างจากยุคเผด็จการครองเมือง

ประชาชนก็ให้ความร่วมมือเต็มที่ จนโรคแทบหมดไปจากในประเทศ

แต่ดันปล่อยให้วีไอพีจากเมืองนอกเข้ามา ไม่ต้องถูกกักตัว เหมือนคนอื่น

พอมีใครทนไม่ไหวจะออกมาประท้วง ก็อ้างพรก.ฉุกเฉินทันที

และต่ออายุไปเรื่อย ๆ ไม่มีกำหนด

สรุปคือ การมีชีวิตอยู่ในประเทศนี้

ต้องปิดปากให้เงียบ ห้ามวิจารณ์ท่านผู้นำ เพราะมีหน่วยงานลึกลับคอยสอดส่องตลอด

อาจเป็นภัยใกล้ตัว

ต้องรู้ว่า การเลือกปฏิบัติเป็นเรื่องธรรมดาในประเทศนี้

เพราะเรื่องเดียวกัน คนอื่นทำอาจผิดหมด

แต่หากตัวเองหรือพวกตัวเองเป็นคนทำ

กลับถูกต้องบริสุทธิ์ซื่อสัตย์สุจริตตรวจสอบได้

ความยุติธรรมหายไปจากประเทศนี้นานแล้ว

มีแต่ความยุติธรรมเก๊ ๆ

หกปีผ่านไป

ประเทศนี้จึงน่าจะเป็นประเทศเก๊ๆ  ไม่ควรมีอยู่จริงในโลกReal-or-Fake

One thought on “ประเทศเก๊ๆ ไม่ใช่ประเทศของเรา

  1. มองด้านเดียวไปหน่อยนะครับ

    ปัญหาคือเมื่อก่อน นักการเมืองคอรัปชั่น เลยเรียกทหารมาคุม ตอนนี้ ทหารคอรัปชั่นซะเอง

    จะไล่ทหาร นักการเมืองขั่วๆ ก็จะกลับมาครองเมือง สรุปจริงๆ มันเป็นสันดานคนไทย กลุ่มไหนมาก็ไม่ต่างกัน เลยอยู่ในช่วงเลยตามเลยครับ

    Like

Leave a comment