เมื่อป๋วยทะเลาะกับ จอมพล
9 มีนาคม เป็นวันเกิดป๋วย อึ๊งภากรณ์
อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
และอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ป๋วยไม่เคยมีตำแหน่งทางการเมือง
แม้จะมีคนชักชวนมากมาย
ป๋วยได้รับการยกย่องจากคนทั่วไปว่าเป็นข้าราชการผู้ซื่อสัตย์ ผู้มีความรู้ความสามารถ
นักบริหารที่ลูกน้องรักมาก
และไม่เคยยอมก้มหัวให้กับเผด็จการ
หลายครั้งที่ป๋วยแสดงความกล้าหาญ
ต่อหน้านายพลทั้งหลาย
เมื่อป๋วยสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกจากประเทศอังกฤษ ได้กลับมารับราชการ
เป็นรองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
วัยเพียง 37 ปี แต่ในระหว่างนั้นเอง
จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ (ขณะนั้นมียศพลเอก) ต้องการจะซื้อสหธนาคารกรุงเทพจำกัด
จากเจ้าของเดิม แต่เนื่องจากธนาคารแห่งนั้นทำผิด
ระเบียบของธนาคารแห่งประเทศไทย
และกำลังจะถูกปรับเป็นเงินหลายล้านบาท
ป๋วยซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบถูกเชิญไปพบจอมพลสฤษดิ์
ต่อหน้านายทหารร่วม ๒๐ คน
จอมพลสฤษดิ์ขอให้ยกเลิกการปรับ
แต่ป๋วยปฏิเสธ และยืนกรานให้คณะรัฐมนตรีปรับธนาคารแห่งนั้น
ในที่สุดคณะรัฐมนตรีก็ปฏิบัติตามข้อเสนอของป๋วย
ผลที่ได้รับคือ หลังจากนั้นไม่นาน
คณะรัฐมนตรีก็มีมติให้ป๋วยพ้นจากตำแหน่ง รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ไปดำรงตำแหน่งอื่นแทน
มรสุมในชีวิตข้าราชการผ่านไปได้ไม่นาน
พลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
และเป็นผู้มีอำนาจอันดับต้น ๆ ในทางการเมือง
ก็พยายามเสนอให้บริษัทแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกาซึ่งตนเองมีผลประโยชน์อยู่ด้วย
เป็นผู้จัดพิมพ์ธนบัตรไทยแทนบริษัทโทมัส เดอลารู
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสมัยนั้น
ได้มอบหมายให้ป๋วยเป็นผู้พิจารณาเรื่องนี้
ป๋วยตรวจพบว่า บริษัทดังกล่าวฝีมือไม่ดี ปลอมง่าย และมีชื่อเสียงในการวิ่งเต้น
จึงไม่มีความน่าเชื่อถือเพียงพอให้เป็นผู้จัดพิมพ์ธนบัตร ป๋วยจึงทำรายงานเสนอให้ใช้
บริษัทโทมัส เดอลารู ตามเดิม
แต่ถ้าหากจะตัดสินให้บริษัทอเมริกันเป็นผู้พิมพ์ธนบัตร
ป๋วยก็จะลาออกจากราชการ
คณะรัฐมนตรีก็มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของป๋วย เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความไม่พอใจให้แก่
พลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ เป็นอย่างมาก
ผู้ยิ่งใหญ่ในบ้านเมืองเวลานั้น ต่างไม่พอใจที่ป๋วยไปขัดขวางผลประโยชน์
จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี
ถึงกับเคยกล่าวแก่คุณพระบริภัณฑ์ยุทธกิจ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า
“ไอ้ลูกศิษย์คุณพระนี่มันจองหองจริง คำหนึ่งมันก็จะลาออก สองคำมันก็จะลาออก”
ครั้งหนึ่งจอมพล ป. เคยสัพยอกชื่อของป๋วยว่า
ป๋วยเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่แล้วไม่ยอมเปลี่ยนชื่อ เป็นชื่อเจ๊ก ชื่อจีนอยู่อย่างนั้น
ป๋วยได้ตอบโต้ไปอย่างตรงไปตรงมาว่า
“พ่อผมตั้งชื่อมา ถ้าจะให้เปลี่ยนก็ต้องให้พ่อเปลี่ยน แต่เสียใจที่พ่อตายเสียแล้วเลยเปลี่ยนไม่ได้”